CHEVROLET GMI700 ( คู่แฝด RT-50 )

PDF
พิมพ์
อีเมล
เขียนโดย J!MMY   
วันจันทร์ที่ 21 มีนาคม 2011 เวลา 21:00 น.
ปี 2011 นี้ นอกเหนือจากตลาดรถยนต์กลุ่ม ECO-Car และ B-Segment ไม่เกิน 1,600 ซีซี จะร้อนแรงแล้ว ตลาด
รถกระบะ ก็นังเป็นอีกสมรภูมิหนึ่งที่จะดุเดือดเลือดพล่านยิ่งกว่าทุกปีที่ผ่านมา เพราะในปีนี้ จะถึงเวลาที่ แทบ
ทุกค่ายจะต้องเปลี่ยนโฉม หรือปรับโฉมใหม่ให้กับรถกระบะของตนเองด้วยกันทั้งสิ้น เมื่อช่วงต้นปี Mitsubishi 
Triton ก็ชิงเปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่ไปก่อนแล้ว และจากนั้น Ford ก็ส่งข่าวมาว่าจะเปิดตัวรถกระบะ Ranger ใหม่ 
Full Model Change ในงาน Bangkok International Motor Show 2011 

ที่ไหนได้ ใครจะไปคาดคิดว่า จู่ๆ GM Thailand ก็สร้างเซอร์ไพรส์ขึ้นมาดื้อๆ จัดงานแถลงข่าว เผยโฉมเวอร์ชัน
ต้นแบบของรถกระบะ Chevrolet Colorado Full Model Change ที่จะนำไปจัดแสดงในงานเดียวกัน ตัดหน้า Ford
ไปเพียง 2 วันเท่านั้น
และนี่แหละ คือการเผยโฉมครั้งแรกในโลกของโครงการที่มีรหัสว่า GMI 700 อันมีประเทศบราซิลเป็นแม่งาน
ขณะเดียวกัน ในส่วนของโครงสร้างตัวถังรอบห้องโดยสาร น่าจะพอให้จินตนาการต่อได้ว่า Isuzu D-Max 
รุ่นต่อไป จะเป็นอย่างไร เพราะถึงแม้จะมีกระแสข่าวเล็ดรอดออกมาก่อนหน้านี้ ว่าทั้งคู่ จะเริ่มแยกทางกันเดิน
ลดการพึ่งพิงชิ้นส่วนร่วมกันให้ลดน้อยลง แต่อย่างน้อย รถรุ่นใหม่นี้ น่าจะเป็นรุ่นสุดท้าย ที่ทั้งคู่จะยังคงต้อง
ร่วมกันใช้ชิ้นส่วนภาพรวมที่มีหน้าตาคล้ายกันอยู่บ้าง ต่อไป หลังจากที่ GM ขายหุ้นใน Isuzu ทิ้งไปจนหมดแล้ว
เพื่อจะลุยงานด้วยตัวเอง

GM ส่งรถกระบะเข้ามาเปิดตัวทำตลาดในไทยครั้งแรก เมื่อราวๆ ทศวรรษ 1970...ครับ อ่านไม่ผิดหรอก ในยุคที่
พวกเขาเริ่มต้นจับมือกันพัฒนารถกระบะขนาดเล็ก (Compact Size Pickup Truck) กับพันธมิตรชาวญี่ปุ่นอย่าง 
Isuzu ในปี 1970 พอดี ตอนนั้น รถกระบะที่ GM ทำตลาดในไทย มีชื่อว่า Chevrolet LUV ซึ่งก็คือ เวอร์ชันแปะ
โลโก้โบไทด์ สีน้ำเงิน ของรถกระบะ Isuzu Faster ธรรมดา ที่ยังไม่มี Z มาต่อท้ายนั่นเอง แต่ด้วยการทำตลาดที่
ค่อนข้างยากลำบาก ในการต่อกรกับคู่แข่งจากฝั่งญี่ปุ่น อีกทั้งตัวบริษัท General Motors ประเทศไทย ณ ตอนนั้น
ก็มีปัญหาภายในค่อนข้างมาก จากยอดขายที่ล้มเหลว ท้ายที่สุด รถกระบะ LUV ก็ต้องถอนตัวอออกจากตลาด 
ตามด้วยการปิดฉากเก็บกระเป๋ากลับสหรัฐฯ ของ GM เมืองไทย ไปนานหลายสิบปี

เมื่อ GM กลับมาเปิดตลาดในไทยอีกครั้งในปี 2000 หลังจากสร้างโรงงานที่ระยอง และปูพื้นฐานด้วยการนำ 
Opel Zafira เข้ามาผลิตขายและส่งออกทั่วโลก ในสารพัดชื่อ และทำตลาดในบ้านเราด้วยชื่อ Chevrolet Zafira 
จนขายดิบขายดี การขยายทางเลือกรุ่นรถยนต์จึงเริ่มขึ้น และหนึ่งในยุทธศาสตร์นั้นก็คือ การนำรถกระบะกลับ
เข้ามาทำตลาดในเมืองไทยอีกครั้ง เดือนมีนาคม 2004 GM Thailand ก็เปิดตัว Chevrolet Colorado รถกระบะที่
ถูกพัฒนาขึ้นร่วมกับ isuzu D-Max แต่มีการปรับปรุงรายละเอียดภายในให้แตกต่างกันประมาณ 300 รายการ
ชิ้นส่วนอะไหล่ รวมถึงงานออกแบบด้านหน้า ที่ดูแข็งแกร่งบึกบึนในแบบอเมริกัน จนสร้างมาตรฐานใหม่ใน
ด้านการออกแบบว่า รถกระบะในไทย ต้องดูแกร่ง ตลอดอายุตลาด 6 ปี พวกเขาเก็บยอดขายไปได้เยอะมากพอ 
และถือว่าเป็นการกลับมาที่น่าพอใจ สำหรับยักษ์ใหญ่จากสหรัฐฯ ที่เคยพ่ายแพ้ในสมรภูมินี้หมดรูปเมื่อ 30 
กว่าปีก่อนหน้านั้น (ก่อนที่จะปรับโฉม Minorchange ให้มีใบหน้าที่อ่อนละมุนลง จนลูกค้าหายไปอยู่กับคู่แข่ง
ค่ายต่างๆเยอะมาก)

วันนี้ ถึงเวลาที่ GM จะต้องเปลี่ยนโฉมใหม่ให้กับ Chevroelt Colorado กันแล้ว และพวกเขาเลือกใช้ ประเทศไทย 
เป็นสถานที่เปิดตัว เวอร์ชันต้นแบบ เป็นประเทศแรกในโลก งานนี้ พวกเขานัดแนะสื่อมวลชน ให้ลงเรือที่โรงแรม
The Penninsula ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ถนนเจริญนคร เพื่อนั่งรถโค้ชเดินทางไปยังสถานที่จัดงาน นั่นคือ สโมสร
กองทัพเรือ (ซึ่งไม่เข้าใจจริงๆว่า จะต้องจัดงานแบบนี้ให้วุ่นวาย และเสี่ยงต่อการโดนนักข่าวด่าทอ กันอีกเป็น
ครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้?) เพื่อจะไปพบกับรูปโฉมของ Colorado ใหม่ 2 ประตู ที่หลายคนเคยเห็นจาก ภาพร่าง
ลายเส้น เพื่อจดทะเบียนลิขสิทธิ์ และภาพวาดคอมพิวเตอร์กราฟฟิคที่ปลิวว่อนไปทั่วสังคมออนไลน์ของกลุ่มคน
บ้ารถแห่งต่างๆทั่วโลก เมื่อหลายเดือนก่อน ไปพร้อมกับการฉลองครบรอบ 100 ปี ของ แบรนด์ Chevrolet อันมี
ชื่อมาจาก Louise Chevrolet นักแข่งรถขาวสวิส ที่มาเจอกับ William Durant ผู้รวบรวมสารพัดบริษัทรถยนต์ราย
น้อยใหญ่ต่างๆ มาเป็น General Motors ชักชวนให้มาเปิดแบรนด์รถยนต์ของตัวเอง และทุกอย่างก็ดำเนินมาจน
ถึงวันนี้

เหตุผลของการเปิดตัวครั้งแรกในโลกที่เมืองไทย ไม่ต้องเสียเวลาคิดให้ยุ่งยาก เพราะคำตอบมีอยู่แล้ว “ตลาด
รถกระบะในประเทศไทยมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ประเทศไทยจึงเหมาะสมที่สุดในการเผยโฉม Colorado 
รุ่นใหม่ของเรา” Martin Apfel ประธานกรรมการ ประจำประเทศไทย และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 
บริษัท General Motors (Thailand) และบริษัท Chevrolet Sales (Thailand) จำกัด กล่าวว่า “Chevrolet  
Colorado ใหม่ จะมาพร้อมกับตำนานอันยาวนานร่วม 100 ปีซึ่งคว้ารางวัลมาแล้วมากมาย เรามีความภูมิใจที่
ได้ผลิต Colorado รุ่นใหม่ในประเทศไทย และเชื่อมั่นว่าจะตรงกับความต้องการและตอบสนองต่อทุกการใช้งาน
ของลูกค้าชาวไทย”

Ms. Susan Docherty รองประธานกรรมการฝ่ายการขาย การตลาด และบริการหลังการขาย General Motors
International Operation (GMIO) กล่าวว่า “รถกระบะได้อยู่เคียงคู่กับประวัติศาตร์อันยาวนานของ Chevroelt
มาเป็นเวลาเกือบ 100 ปี และ Colorado เจนเนอเรชั่นใหม่นี้จะตอกย้ำความสมบูรณ์แบบทั้งด้านการออกแบบ 
ความพิถีพิถัน และประสิทธิภาพอันเหนือระดับได้อย่างแน่นอน”
งานพัฒนารถรุ่นนี้ ภายใต้รหัสโครงการ GMI 700 มี บราซิล เป็นประเทศแม่งาน เนื่องจากว่า นอกเหนือจากไทย
และสหรัฐอเมริกาแล้ว บราซิลเป็นประเทศที่มียอดขายรถกระบะ เป็นรองเพียงแค่ทั้ง 2 ประเทศข้างต้น พฤติกรรม
การใช้รถกระบะที่นั่น ก็น่าสนใจอยู่ไม่น้อย อีกทั้งยังใกล้กับบริษัทแม่ใน Detroit มากกว่าเมืองไทยอีกต่างหาก
อย่างไรก็ตาม วิศวกรที่เมืองไทย ก็ต้องทำงานร่วมกับวิศวกรทั้งที่สหรัฐฯ และบราวิล เพื่อร่วมกันพัฒนารถกระบะ
รุ่นใหม่คันนี้ออกมา
เวอร์ชันต้นแบบของ Chevy Colorado คันนี้ มาพร้อมกับรูปทรงที่แข็งแกร่งบึกบึน ตัวถังแบบ Extended Cab
หรือแบบ 2 ประตูพร้อม Cab และที่นั่งด้านหลังคนขับ ยกสูง สะดุดตาด้วยล้ออลูมิเนียมขนาด 20 นิ้วและยาง
แบบออฟโรด พร้อมสมรรถนะจากขุมพลัง Diesel 4 สูบ 2.8 ลิตร Turbocharger ให้แรงบิดต่อเนื่อง ตอบสนอง
ทุกการใช้งาน และประหยัดเหนือชั้น

Brad Merkel ผู้บริหารระดับสูงด้านสายผลิตภัณฑ์ของ GM กล่าวว่า “ถึงแม้จะเป็นเพียงรถต้นแบบ แต่
ก็สะท้อนให้เห็นถึงแนวทางในการพัฒนารถกระบะ Chevrolet Colorado รุ่นใหม่ในก้าวต่อไป โดยมีการ
วางแผนเพื่อเปิดตัวออกสู่ตลาดและจัดจำหน่ายจริงในปีนี้อย่างแน่นอน จากรูปลักษณ์อันแข็งแกร่ง ทรงพลัง
ล้ำสมัย ตลอดจนเทคโนโลยีต่างๆ ที่จะถูกถ่ายทอดจากรถกระบะต้นแบบสู่เวอร์ชันจำหน่ายจริง จะทำให้
Chevrolet Colorado รุ่นใหม่ตอบสนองความต้องการในการใช้งานได้ทุกรูปแบบทั้งการใช้งานในเชิงพาณิชย์ 
ไปจนถึงการใช้งานอเนกประสงค์ทั่วๆไป”

Colorado ได้รับการสร้างสรรค์จากหน่วยงานพัฒนาผลิตภัณฑ์ระดับโลกของ GM โดยฝีมือทีมวิศวกรที่ทำงาน
อย่างพิถีพิถัน พร้อมกับการเข้ามาใช้ชีวิตในเมืองไทยนานหลายเดือนของทีมหัวหน้าวิศวกร ที่เฝ้าสังเกตภาวะ
ตลาดรถเมืองไทย และการใช้งานรถกระบะของลูกค้าชาวไทย ตลอดจนสำรวจคุณภาพถนนเกือบทั่วประเทศ
เพื่อให้แน่ใจว่ารถกระบะรุ่นใหม่นี้จะตรงกับความต้องการของลูกค้าชาวไทยมากที่สุด

“รถกระบะ มีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศไทย และผู้ที่ใช้งานรถกระบะมีความภาคภูมิใจในรถของ
พวกเขาเป็นอย่างมาก เพราะพวกเขาสามารถใช้รถกระบะในการทำงาน และในชีวิตประจำวันส่วนตัวได้อย่าง
เต็มที่ ลูกค้ามีจุดประสงค์และความต้องการใช้งานรถกระบะให้คุ้มค่ามากที่สุด ดังนั้นเครื่องยนต์ และ
โครงสร้างตัวถังจะต้องมีความแข็งแกร่ง ทนทานและนั่นคือสิ่งที่เราพร้อมจะมอบให้ลูกค้าของ Chevrolet
Colorado รุ่นใหม่ล่าสุดคันนี้” Merkel กล่าว

เป้าหมายการออกแบบของรถต้นแบบ Colorado คันนี้ คือ การนำเสนอความแข็งแกร่งออกมาทางตัวถังที่มี
ขนาดใหญ่และมั่นคง ด้านหน้าโดดเด่นด้วยเอกลักษณ์กระจังหน้าสองชั้น และโลโก้โบไทสีทองอันโดดเด่น
ของ Chevrolet นำสายตาทุกคู่ไปสู่กรอบไฟหน้าที่พาดเฉียงขึ้นไปบนฝากระโปรงรถ ซึ่งเชื่อมต่อกับซุ้มล้อ
ขนาดใหญ่ดูทรงพลังและน่าเกรงขาม

“การพัฒนารถกระบะทั่วโลก เกิดขึ้นจากการเชื่อมโยงกันระหว่างความแข็งแกร่ง การรองรับการขับขี่ และ
การใช้งาน ซึ่งคุณสมบัติดังกล่าวนี้ถูกบรรจุอยู่ในรถต้นแบบโคโลราโดคันนี้” Ed Welburn รองประธาน GM
Golbal Design กล่าวว่า “ความบึกบึนด้านข้างของตัวถังรถเป็นการสานต่อเอกลักษณ์อันโดดเด่นของรถกระบะ
ในตระกูล Chevrolet มานานนับศตวรรษ”

สีสันของตัวถังด้านหน้ารถเลือกใช้สี Metallic ชนิดพิเศษที่เรียกว่า ‘Pepper Dust’ ตัดกับอลูมิเนียมขัดเงา เข้า
คู่กับบันไดด้านข้างที่เป็นส่วนประกอบหนึ่งของตัวรถ การออกแบบกรอบไฟหน้าโคมดำพร้อมหลอดไฟแบบ
LED เช่นเดียวกับไฟท้ายแบบ LED ทั้งหมดจะสามารถดึงดูดสายตาทุกคู่ในยามค่ำคืน การออกแบบตัวถัง
ภายนอกส่วนอื่น ประกอบด้วย  การออกแบบช่วงแค็บที่ไหลลื่น พร้อมปิดกระบะท้ายสีเดียวกับตัวถังรถ
แถบสีเทาเข้ม พาดผ่านด้านหน้า ด้านข้าง และด้านท้ายรถ ล้ออลูมิเนียมขนาด 20 นิ้ว สีเทาเข้ม ตกแต่งแบบ 
“Liquid Metal” ยาง Cooper ZEON LTZ ขนาด 285/50 R20 และ กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว LED
ภายในห้องโดยสารเน้นโทนสีต่างเพิ่มความหรูหรา เบาะหนังสีอ่อนตัดกับลายไม้สีเข้มและโครเมียม พร้อม
พื้นผิวที่ไม่มีความมันวาวมากนัก และวัสดุอื่นๆที่ให้สัมผัสอ่อนนุ่ม ช่องเก็บของหลากหลายขนาดถูกติดตั้งทั่ว
ห้องโดยสาร รวมถึงช่องเก็บของที่มีฝาปิดมิดชิดเพื่อเก็บของมีค่าและช่องเก็บของขนาดใหญ่บริเวณ
คอนโซลด้านหน้าแบบสองชั้น เพิ่มความหรูหรา ตลอดจนช่วยสร้างความรู้สึกแบบพรีเมียมให้ผู้โดยสาร

มร.เวลเบิร์น กล่าวว่า “การออกแบบภายในของ Colorado ใหม่ จะเน้นให้ผู้โดยสารรู้สึกเหมือนได้รับคำเชิญ
ให้นั่งไปพร้อมกับความรู้สึกพิเศษ ด้วยความกว้างขวางที่เหนือกว่ารถกระบะค่ายอื่นในระดับเดียวกัน และใน
ขณะเดียวกัน ทุกรายละเอียดของห้องโดยสาร จะได้รับการพัฒนามาเพื่อมอบคุณภาพสูงสุด ทั้งในด้าน
ความรู้สึก หรือแม้แต่เพียงแค่การมองเห็น”
ภายในห้องโดยสารแบบ Dual-Cockpit เป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของเชฟโรเลตที่เน้นความสมดุลลื่นไหลตลอด
คอนโซลหน้าไปจนถึงแผงข้างประตู มีการแทรกดีไซน์แบบบิดโค้งเพื่อเพิ่มความล้ำสมัย แสงไฟในห้อง
โดยสารเป้นสีฟ้า Ice Blue เบาะหนังตัดเย็บอย่างพิถีพิถัน เน้นให้เห็นสัมผัสของความสะดวกสบาย กว้างขวาง
และรื่มรมย์ตลอดการเดินทาง

มาตรวัดแบบ 3 ช่อง โดดเด่นสะดุดตา ให้อารมณ์ความรู้สึกสปอร์ต และตอบสนองทุกการใช้งานได้อย่างชัดเจน 
แผงคอนโซลติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ระบบปรับอากาศแบบแยกส่วน และระบบให้ความ
บันเทิงแบบ “Infotainment  ส่วนคอนโซลกลางติดตั้งหน้าจอ LCD ขนาด 7 นิ้วสำหรับระบบนำทาง Navigator
System พร้อมฟังก์ชั่นการเชื่อมต่อ Website การปรับเลือกเพลง และการใช้งานโทรศัพท์แบบ Hands-free
สำหรับความคืบหน้าของ Colorado เวอร์ชันผลิตขายจริงสำหรับประเทศไทยนั้น จะยังคงถูกผลิตขึ้นจาก
โรงงานของ GM ระยอง เพื่อส่งออกไปทำตลาดทั่วโลก โดยจะใช้เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 
พ่วง Turbocharger ทั้งขนาด 2.2 และ 2.8 ลิตร ที่ผลิตขึ้นเองในพื้นที่โรงงานผลิตเครื่องยนต์ ซึ่งก่อสร้าง
เสร็จแล้ว บนพื้นที่ของศูนย์การผลิต GM ที่ระยอง ด้วยกันนั่นเอง ซึ่งจะแตกต่างจาก Isuzu กระบะรุ่นต่อไป
ที่ยังจะใช้เครื่องยนต์ 2.5 และ 3.0 ลิตรเหมือนเช่นรุ่นปัจจุบัน แต่พัฒนาใหม่ให้แรงและประหยัดกว่าเดิม
ตอนนี้ Chevrolet Colorado ใหม่ จะยังไม่มีให้เห็นที่โชว์รูมและศูนย์บริการของ Chevrolet ทั้ง 94 ราย 
ใน 76 จังหวัดทั่วประเทศไทย เพราะรถยังไม่พร้อมจะขายกันเลย แต่ถ้าอยากจะชมรูปโฉมคันจริง คง
ต้องไปดูกันได้ที่งาน bangkok International Motor Show 2011 ระหว่างวันที่ 25 มีนาคม - 4 เมษายนนี้ 
ที่ Challenger Hall IMPACT เมืองทองธานี แจ้งวัฒนะ กันสถานเดียว ชมไว้เพื่อให้รู้ว่า เวอร์ชันขายจริง
หน้าตาจะไม่ต่างจากเวอร์ชันต้นแบบที่เห็นอยูนี้ มากนัก

TOYOTA REVO 2.4 G 2017 Price 689,000 baht

TOYOTA REVO 2.4 G 2017 💰💰 Price 689,000 Baht 💰💰 Use car money out 10,000 installments 12,629 x 72 *** Attached wit...