โตโยต้า เปิดตัว สุดยอดรถกะบะไฮลักซ์ วีโก้แชมป์ อย่างเป็นทางการแล้ว – เคาะราคาตั้งแต่ 4.87 แสนบาท-9.88 แสนบาท
โตโยต้า ก็ได้ฤกษ์เปิดตัว รถกระบะโตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้ ใหม่ โดยใช้ชื่อรุ่น ว่า “แชมป์” โดยมีการปรับปรุงโฉมกันชุดใหญ่ ซึ่งโตโยต้าเรียกการปรับโฉมครั้งนี้ ว่า “บิ๊ก ไมเนอร์เชนจ์” คือเปลี่ยนแปลงเกือบทั้งคัน และมีเครื่องยนต์ให้เลือกถึง 5 รุ่น ไล่ไปตั้งแต่ เครื่องยนต์ ดีเซล ขนาด 2.0 ลิตร ไปจนถึง เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 3.0 ลิตร และเครื่องเบนซิน 2.7 ลิตร ( สุดยอดจริงๆ )
โตโยต้า วีโก้แชมป์ TOYOTA Vigo CHAMP ใช้ไฟหน้าดี ไซน์ใหม่ โคมไฟคู่หน้าแบบฮาโลเจน มัลติรีเฟลกเตอร์ ส่องสว่าง ชัดเจน ดูมีพลัง พร้อมไฟหลังดีไซน์ใหม่ สวยงาม โฉบเฉี่ยวขึ้น ฝากระโปรงลงตัวกับช่องดักลมใหม่ ขนาดใหญ่ขึ้นมาก สวยงาม รับกับแบบด้านหน้า กระจังหน้า และกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ เสาวิทยุใหม่ แบบพับเก็บได้ (เฉพาะรุ่นเอ็กซ์ตร้า แค็บ) มีระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) ด้วย สบาย (เฉพาะรุ่น 3.0 G 4×4 เกียร์อัตโนมัติ)
ภายในดีไซน์ทันสมัยมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม แผงคอนโซลหน้า มาตรวัด และ ลูกบิดปรับอุณหภูมแอร์ ดีไซน์ใหม่ โดดเด่น ทันสมัยยิ่งขึ้น พวงมาลัยดีไซน์ใหม่ หรูหราพร้อม ระบบ Multi-function (บางรุ่น) เบาะนั่งไฟฟ้า / แผงประตูข้าง / คอนโซลกลาง โทนสีเทาเข้มขึ้น ดูสวยงามและรักษาง่ายขึ้น นั่งสบายๆด้วยเบาะแบบ 60:40 ซึ่งนั่งได้มากถึง 3คน (รุ่นมาตรฐาน) เพิ่มช่องทางความบันเทิงให้มากขึ้นด้วยช่องต่ออุปกรณ์ USB/AUX (เฉพาะรุ่นเอ็กซ์ตร้า แค็บ) ที่มาพร้อมกับชุดเครื่องเสียงขนาด 2Din เล่น CD 1แผ่น รองรับ MP3 และ WMA และ มี กล้องมองหลัง ที่ ทำงานสัมพันธ์กับเกียร์ถอยหลัง (เฉพาะ Prerunner และ4×4 3.0G)
ในส่วนช่วงล่าง TOP Platform โครงสร้างเฟรมชิ้นเดียวยาวตลอดคันไร้รอยเชื่อมต่อ มีความแข็งแรงทนทาน ทนต่อแรงดึง และการบิดตัวสูง ระบบกันสะเทือนปรับปรุงให้นิ่มนวล โดยด้านหน้าเป็นแบบอิสระปีกนกคู่ดับเบิ้ลวิชโบนและคอยล์สปริง หลังแบบแหนบซ้อน
ความปลอดภัยสูงสุด ระดับดิสก์เบรกหน้า พร้อมครีบระบายความร้อน / ดรัมเบรกหลังพร้อมวาล์วปรับแรงดันน้ำมันเบรกอัตโนมัติ LTS and Super LSPV ถุงลมเสริมความปลอดภัย แบบ Dual SRS Airbag คู่ด้านหน้า ปกป้องผู้ขับขี่และผู้โดยสารจากแรงกระแทกด้านหน้า (เฉพาะ เกรด G)
ระบบเบรก ABS (Anti-lock Braking System) ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรกเพื่อความปลอดภัย เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมทิศทางและหักหลบสิ่งกีดขวางได้ในขณะเบรกได้ดีขึ้น (เฉพาะเกรด G และ E ABS)
ห้องโดยสารและกระบะท้ายของรถ Toyota Hilux Vigo Champ 2012 โตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้ แชมป์ โฉมใหม่
ตลอดจนโครงสร้างนิรภัย GOA (Global Outstanding Assessment) พร้อมคานประตูใหญ่ และหนา คานกันกระแทกด้านข้าง, พวงมาลัยแบบยุบตัวได้, เข็มขัด ELR 3 จุด ปรับระดับสูงต่ำได้,แป้นเหยียบเบรกแบบยุบตัวได้, ไฟเบรกดวงที่ 3, แผงไล่ฝ้ากระจกหลัง,กระจกบังลมหน้าแบบอัดซ้อนนิรภัยพร้อมแถบกรองแสง, วาล์วตัดน้ำมันอัตโนมัติ, โครงเสาหลังคาและหลังคารถด้านในได้รับการออกแบบให้มีความอ่อนนุ่มเป็นพิเศษ ช่วยผ่อนแรงกระแทกเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
| เครื่องยนต์ | กำลังสูงสุด | แรงบิดสูงสุด | วางในรุ่น |
| 1KD – FTV 3.0 ลิตร ไดเรกอินเจ็กชัน 16 วาล์ว VN เทอร์โบอินเตอร์คูลเลอร์ | 163 แรงม้า ที่ 3,400 รอบต่อนาที | 343 นิวตัน-เมตร ที่ 1,400-3,200 รอบ/นาที | รุ่นมาตรฐาน ขับเคลื่อน 2 ล้อ สมาร์ทแค็บ ทุกระบบขับเคลื่อน ดับเบิลแค็บ ทุกระบบขับเคลื่อน |
| 2KD – FTV (VNT) 2.5ลิตร ไดเรกอินเจ็กชัน 16 วาล์ว VN เทอร์โบอินเตอร์คูลเลอร์ | 144 แรงม้า ที่ 3,400 รอบต่อนาที | 343 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,800 รอบ/นาที | สมาร์ทแค็บ Pre-runner และ 4×4 ดับเบิลแค็บ ทุกระบบขับเคลื่อน |
| 2KD – FTV (I/C) 2.5ลิตร ไดเรกอินเจ็กชัน 16วาล์ว เทอร์โบอินเตอร์คูลเลอร์ | 120 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที | 325 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที | สมาร์ทแค็บ ขับเคลื่อน 2 ล้อ และ Pre-runner ดับเบิลแค็บ Pre-runner |
| 2KD – FTV 2.5ลิตร ไดเรกอินเจ็กชัน 16 วาล์ว เทอร์โบ | 102 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที | 200 นิวตัน-เมตร ที่ 1,400-3,400 รอบ/นาที | รุ่นมาตรฐาน / เอ็กซ์ตราแค็บ สมาร์ทแค็บ ขับเคลื่อน 2 ล้อ ดับเบิลแค็บ ขับเคลื่อน 2 ล้อ |
| 2TR – FE 2.7 ลิตร เบนซิน VVT-I 16 วาล์ว | 160 แรงม้า ที่ 5,200 รอบต่อนาที | 241 นิวตัน-เมตร ที่ 3,800 รอบ/นาที | รุ่นมาตรฐาน ขับเคลื่อน 2 ล้อ สมาร์ทแค็บ ขับเคลื่อน 2 ล้อ ดับเบิลแค็บ ขับเคลื่อน 2 ล้อ |
สัมผัส Toyota Hilux Vigo Champ และ Toyota Fortuner ตัวจริงเป็นๆ ได้วันที่ 22-24 กรกฎาคม 2011 ในห้าง แฟชันไอส์แลนด์, ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต, เซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์, เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า, เซ็นทรัล พระราม 2 ถ้าไม่สะดวกก็ไปที่โชว์รูมโตโยตา 329 แห่งทั่วประเทศครับ
ราคาจำหน่ายของ Hilux Vigo Champ ปี 2011-2012 มีดังนี้
รุ่น StandardCab เริ่มต้นที่ 487,000 บาท(2.5J StandardCab) ไปจนถึง 544,000 บาท(3.0J)
รุ่น SmartCab เริ่มต้นที่ 587,000 บาท(2.5J SmartCab พวงมาลัยพาวเวอร์) ไปจนถึง 814,000 บาท (3.0G SmartCab 4WD สีเมทัลลิก)
รุ่น ExtraCab เริ่มต้นที่้ 552,000 บาท(2.5J ExtraCab พวงมาลัยพาวเวอร์) และ 559,000 บาท(2.5J ExtraCab พวงมาลัยพาวเวอร์ สีเมทัลลิก)
รุ่น DoubleCab เริ่มต้นที่ 627,000 บาท(2.5J DoubleCab) ไปจนถึง 988,000 บาท(3.0G DoubleCab เกียร์อัตโนมัติ 4WD สีเมทัลลิก)
รุ่น SmartCab เริ่มต้นที่ 587,000 บาท(2.5J SmartCab พวงมาลัยพาวเวอร์) ไปจนถึง 814,000 บาท (3.0G SmartCab 4WD สีเมทัลลิก)
รุ่น ExtraCab เริ่มต้นที่้ 552,000 บาท(2.5J ExtraCab พวงมาลัยพาวเวอร์) และ 559,000 บาท(2.5J ExtraCab พวงมาลัยพาวเวอร์ สีเมทัลลิก)
รุ่น DoubleCab เริ่มต้นที่ 627,000 บาท(2.5J DoubleCab) ไปจนถึง 988,000 บาท(3.0G DoubleCab เกียร์อัตโนมัติ 4WD สีเมทัลลิก)
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมดูได้ที่เว็บไซต์ Toyota Thailand ที่ http://www.toyota.co.th/hiluxvigochamp/
ส่วนฟอร์จูนเนอร์ ใหม่ Toyota Fortuner 2012 นั้นโตโยต้า นำเครื่องยนต์ดีเซล 2.5 ลิตร VN เทอร์โบ มาเสริมไลน์เพิ่มขึ้นอีก 1 รุ่น แต่เครื่องยนต์รุ่นนี้ มีแต่เกียร์ธรรมดาเท่านัน ทำให้ฟอร์จูนเนอร์ มีเครื่องยนต์ มีให้เลือก 3 เครื่องยนต์ คือ 1.เครื่องยนต์ ดีเซล 1 KD-FTV (I/C) 3000 ซีซี ขนาด 3.0ลิตร VN เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ 163แรงม้า 2.เครื่องยนต์ ดีเซล 2 KD-FTV (I/C) 2500 ซีซี ขนาด 2.5 ลิตร VN เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ 144 แรงม้า 3.เครื่องยนต์ เบนซิน TR-FE ขนาด 2700 ซีซี พร้อมเทคโนโลยี VVT-i 160 แรงม้า
รูปลักษณ์ภายนอก ดีไซน์ใหม่ โดดเด่น หรูหรา ตั้งแต่หัวจรดท้าย เหนือรถระดับเดียวกัน กระจังหน้าโครเมียม กันชนหน้า และกันชนหลัง ดีไซน์ใหม่ ฝากระโปรงลงตัวกับช่องดักลมใหม่ โคมไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ ไฟตัดหมอก และโคมไฟท้ายแบบมัลติรีเฟล็กเตอร์ ดีไซน์ใหม่ มีที่ฉีดล้างไฟหน้าให้ด้วย (เฉพาะในรุ่น3.0V 4×4) กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวแบบปรับด้วยไฟฟ้า กล้องมองหลัง (ยกเว้นในรุ่น 2.5G)
ภายในฟอร์จูนเนอร์
ภายในพวงมาลัยดีไซน์ใหม่ แบบ Multi-function แผงคอนโซลหน้าและกลาง ดีไซน์ใหม่ พร้อมลายไม้ (ในรุ่น3.0V และ 2.7V) และเมทัลลิก (ในรุ่น2.5G) เบาะผ้าลายใหม่สี 2 โทน (เฉพาะรุ่น2.5G) แผงประตูข้างแบบ 2 โทน ดูสวยงาม แผงลายไม้ (ในรุ่น3.0V และ 2.7 V) และลายเมทัลลิก (ในรุ่น2.5 G) ข้างประตูใหม่ หัวเกียร์ลายไม้ใหม่ ให้ความหรูหรา สวยงาม (ในรุ่น3.0V และ 2.7V) ระบบเครื่องเสียง ขนาด 2 Din สามารถเล่นวิทยุ ซีดี ดีวีดี พร้อมระบบ MP3 / WMA และลำโพง 6 ทิศทาง พร้อมระบบ ASL ปรับระดับเสียงอัตโนมัติตามความเร็วรถ เพิ่มช่องทางความบันเทิงให้มากขึ้นด้วย ช่องต่อ USB / AUX และมี ระบบเชื่อมต่อแบบ Bluetooth
สนนราคา เริ่มต้นที่ 1.059 ล้าน-1.501 ล้านบาท
ที่มา – Egadgety
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น